ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันนี้ก็มีบริษัทผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยเป็นจำนวนมาก และยังมีการออกแผนความคุ้มครองที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด ลูกค้าอย่างเรา ๆ จึงมีโอกาสเลือกได้มากขึ้น อย่างเช่นคนที่กำลังต้องการซื้อประกันมะเร็งออนไลน์นั้นจะเลือกจากอะไรเพื่อให้ได้แผนความคุ้มครองที่ถูกใจที่สุดกันนะ?
ซื้อประกันมะเร็งออนไลน์ ต้องเลือกจากอะไร?
- เลือกจากประเภทของความคุ้มครอง
การซื้อประกันมะเร็งออนไลน์นั้นมีความคุ้มครองหลายรูปแบบ หลัก ๆ ที่พบได้บ่อยก็คือแบบที่ “เจอ-จ่าย-จบ” หมายถึงกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าผู้เอาประกันท่านนี้มีอาการของโรคมะเร็งอยู่ ก็จะได้รับเงินตามวงเงินคุ้มครองไปเลย เป็นเงินก้อนจ่ายแล้วจบครั้งเดียว กับอีกรูปแบบคือประกันมะเร็งที่ช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษา, ค่าแพทย์, ค่ายา, ค่าห้องพักรักษาตัว รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาแบบฉายรังสีในลักษณะต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องกระทำอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยให้ทุเลาลง
- จำนวนเงินเอาประกันภัย
จำนวนเงินเอาประกันภัย หมายถึง จำนวนเงินสูงสุดที่ทางบริษัทประกันฯ จะจ่ายให้เมื่อเกิดความเสียหายตามด้านต่าง ๆ ที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันควรพิจารณาดูว่าวงเงินจำนวนเท่านี้ว่าเป็นจำนวนเงินที่พึงพอใจแล้วหรือยัง และต้องไม่ลืมประเมินตนเองด้วยว่าสามารถชำระเบี้ยประกันไหวไหม
- คุณสมบัติของผู้เอาประกัน
ผู้ที่ต้องการซื้อประกันมะเร็งออนไลน์ ต้องไม่ลืมที่จะเช็กเงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้ที่สามารถรับความคุ้มครองได้ เช่นข้อมูลทางสุขภาพ, อายุ, ประวัติการมีคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็ง ฯลฯ แนะนำว่าให้แจ้งข้อมูลไปตามจริงตั้งแต่เริ่มกรอกข้อมูลสมัครประกันภัย เพราะถ้ามีการบิดเบือนข้อมูลหรือไม่แจ้งไปตามจริงในตอนต้น แล้วทางบริษัทฯ มาตรวจพบความจริงในภายหลัง ก็อาจถูกตัดสิทธิ์ความคุ้มครอง และเสียผลประโยชน์ไปได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครอง เพราะบริษัทฯ ที่ดี จะหาประกันมะเร็งที่เหมาะกับคุณมานำเสนอให้เอง
- เช็คเบี้ยประกัน
หากเจอความคุ้มครองที่รู้สึกว่าถูกใจแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะเช็คเบี้ยประกันและคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ว่าค่าใช้จ่ายของคุณในแต่ละเดือนจะเหลือเท่าใด เมื่อต้องซื้อประกันมะเร็งออนไลน์แล้ว จะเหลือเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือไม่
หากเลือกแล้วยังรู้สึกไม่แน่ใจ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้คำปรึกษาและเลือกแผนความคุ้มครองที่ดีที่สุดให้กับคุณ